คู่มือแทงบอลออนไลน์ มือใหม่หัดแทงบอล อ่านค่าน้ำและอัตราต่อรอง

ยินดีต้อนรับสู่โลกของการแทงบอลออนไลน์ ถ้าคุณเป็นคนรักฟุตบอลและต้องการเพิ่มความตื่นเต้นในการชมการแข่งขัน การเดิมพันออนไลน์อาจเป็นคำตอบที่คุณกำลังมองหา นอกจากความสนุกและความตื่นเต้นที่เพิ่มขึ้นแล้ว การเดิมพันออนไลน์ยังเปิดโอกาสให้คุณสามารถทำกำไรได้จากความรู้และการวิเคราะห์ของคุณเองสำหรับมือใหม่ การเริ่มต้นอาจดูน่ากลัว แต่ไม่ต้องกังวล! บทความนี้จะเป็น คู่มือแทงบอลออนไลน์ ฉบับสมบูรณ์ที่พาคุณผ่านทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเข้าใจค่าน้ำและอัตราต่อรอง ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการเดิมพัน เพื่อให้คุณมีพื้นฐานที่แข็งแรงและพร้อมที่จะเข้าสู่สนามการเดิมพันอย่างมั่นใจ มาเริ่มต้นการผจญภัยในโลกของการแทงบอลออนไลน์กันเถอะ พร้อมที่จะลุ้นระทึกไปกับทุกประตูและทุกการเดิมพันที่คุณวางไว้!


คู่มือแทงบอลออนไลน์ มือใหม่หัดแทงบอล อ่านค่าน้ำและอัตราต่อรอง

คู่มือแทงบอลออนไลน์ มือใหม่หัดแทงบอล อ่านค่าน้ำและอัตราต่อรอง

  • เริ่มสมัครสมาชิก: ก่อนที่จะสามารถเริ่มเดิมพันได้ ผู้เล่นจำเป็นต้องสมัครสมาชิกกับเว็บไซต์พนันบอล ซึ่งมักจะต้องให้ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ เบอร์โทรศัพท์ และอีเมล เพื่อยืนยันตัวตนและป้องกันการทุจริต
  • ฝากเงิน: เมื่อสมัครสมาชิกเสร็จแล้ว ผู้เล่นต้องทำการฝากเงินเข้าบัญชีเดิมพันของตน ซึ่งสามารถทำได้ผ่านหลายช่องทาง เช่น โอนผ่านธนาคาร, บัตรเครดิต หรือบริการ e-wallet
  • เลือกเหตุการณ์เดิมพัน: หลังจากที่มีเงินในบัญชีแล้ว ผู้เล่นสามารถเลือกเหตุการณ์ที่ต้องการเดิมพันได้ เช่น การแข่งขันในลีกไทยพรีเมียร์ลีก, พรีเมียร์ลีกอังกฤษ หรือการแข่งขันระดับโลก
  • วางเดิมพัน: ผู้เล่นต้องเลือกประเภทการเดิมพันและจำนวนเงินที่ต้องการเดิมพัน ซึ่งแต่ละประเภทมีอัตราการจ่ายเงินแตกต่างกัน
  • ติดตามผลการแข่งขัน: หลังจากวางเดิมพันแล้ว ผู้เล่นต้องติดตามผลการแข่งขัน ซึ่งสามารถตรวจสอบได้จากเว็บผลบอล หรือแอปพลิเคชันที่ให้บริการ

ประเภทของการเดิมพันฟุตบอล

มีหลายประเภทของการเดิมพันที่ผู้เล่นสามารถเลือกได้ ขึ้นอยู่กับความถนัดและกลยุทธ์ของแต่ละคน ซึ่งประเภทหลัก ๆ ได้แก่:

บอลเดี่ยว (Single Bet)

เป็นการวางเดิมพันในเหตุการณ์เดียว ผู้เล่นจะต้องเลือกทีมที่คิดว่าจะชนะหรือเสมอ โดยการจ่ายเงินจะขึ้นอยู่กับค่าน้ำของทีมนั้น ๆ ค่าน้ำจะบ่งบอกถึงความน่าจะเป็นและกำไรที่ผู้เล่นจะได้รับ ตัวอย่างเช่น:

  • หากวางเดิมพัน 1,000 บาท กับทีม A ที่มีค่าน้ำ 1.75 และทีม A ชนะ ผู้เล่นจะได้รับเงิน 1,750 บาท (รวมทุน 1,000 บาท)
  • ถ้าทีม A แพ้หรือเสมอ ผู้เล่นจะเสียเงินเดิมพัน 1,000 บาททั้งหมด

การเลือกบอลเดี่ยวเหมาะสำหรับผู้เล่นที่มั่นใจในผลการแข่งขันและต้องการลดความเสี่ยงในการแพ้

บอลสเต็ป (Parlay Bet)

คือ การวางเดิมพันหลายเหตุการณ์ในบิลเดียว ผู้เล่นต้องทายผลทั้งหมดให้ถูกต้องเพื่อที่จะชนะเดิมพัน ความน่าสนใจของบอลสเต็ปคืออัตราการจ่ายเงินจะคูณขึ้นตามจำนวนเหตุการณ์ที่เดิมพัน ตัวอย่างเช่น:

  • หากวางเดิมพัน 1,000 บาท ใน 3 คู่ที่มีค่าน้ำ 1.75, 1.85 และ 2.00 การจ่ายเงินจะเป็น 1,000 x 1.75 x 1.85 x 2.00 = 6,475 บาท (รวมทุน 1,000 บาท)
  • หากทายถูกเพียง 2 คู่และผิด 1 คู่ ผู้เล่นจะเสียเงินเดิมพันทั้งหมด 1,000 บาท

การแทงบอลสเต็ปเหมาะสำหรับผู้เล่นที่ต้องการทำกำไรสูงและมีความมั่นใจในการวิเคราะห์ผลการแข่งขันหลายคู่พร้อมกัน

แฮนดิแคป (Handicap Bet)

การแทงบอลประเภทนี้ เป็นการตั้งค่าเปรียบเสมือนการให้คะแนนล่วงหน้าแก่ทีมที่อ่อนแอกว่า เพื่อทำให้การเดิมพันมีความสมดุลและน่าสนใจยิ่งขึ้น โดยการแฮนดิแคปจะมีทั้งแบบ +1, +1.5, -1, -1.5 เป็นต้น ตัวอย่างเช่น:

  • ถ้าทีม A ต่อให้ทีม B +1 และผลการแข่งขันคือทีม A ชนะ 2-1 ผลการเดิมพันจะถือว่าเสมอ เพราะทีม B ได้รับแต้มเพิ่มจากแฮนดิแคป
  • ถ้าทีม A ชนะด้วยผลต่าง 2 ประตูขึ้นไป (เช่น 3-1, 4-2) ผู้เล่นที่เดิมพันทีม A จะชนะเดิมพัน

คู่มือแทงบอลออนไลน์ ค่าน้ำในการเดิมพันฟุตบอล

คู่มือแทงบอลออนไลน์ ค่าน้ำในการเดิมพันฟุตบอล

ค่าน้ำในการเดิมพันฟุตบอล คือค่าธรรมเนียมที่เจ้ามือรับแทง (Bookmaker) ตั้งขึ้นมาเพื่อเป็นการหักค่าคอมมิชชั่นจากผู้เล่นเมื่อวางเดิมพัน ค่าน้ำถูกกำหนดมาเพื่อให้เจ้ามือมีความได้เปรียบในระยะยาวและเพื่อเป็นการสะท้อนความน่าจะเป็นของผลลัพธ์ในแต่ละเกม การที่ผู้เล่นเข้าใจค่าน้ำจะช่วยให้สามารถตัดสินใจวางเดิมพันได้อย่างมีประสิทธิภาพและเพิ่มโอกาสในการทำกำไร ตัวอย่างเช่น:

  • หากค่าน้ำเป็น 0.95 หมายความว่าถ้าผู้เล่นวางเดิมพัน 1,000 บาท และชนะเดิมพัน ผู้เล่นจะได้รับเงิน 950 บาท (ไม่รวมทุน) ค่าน้ำ 0.05 จะเป็นค่าธรรมเนียมที่เจ้ามือหักไป
  • หากค่าน้ำเป็น -0.90 หมายความว่าถ้าผู้เล่นวางเดิมพัน 1,000 บาท และชนะเดิมพัน ผู้เล่นจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียม 900 บาท และจะได้รับเงินทั้งหมด 1,900 บาท (รวมทุน)

ประเภทของค่าน้ำ

ค่าน้ำมีหลายประเภทที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในการเดิมพันฟุตบอล ซึ่งแต่ละประเภทมีลักษณะและการคำนวณที่แตกต่างกัน ดังนี้:

  • ค่าน้ำมาเลย์ (Malay Odds):
    • ค่าน้ำมาเลย์มีสองรูปแบบ คือ ค่าน้ำบวกและค่าน้ำลบ ค่าน้ำบวกแสดงถึงกำไรที่ผู้เล่นจะได้รับเมื่อชนะเดิมพัน ใน คู่มือแทงบอลออนไลน์ ขณะที่ค่าน้ำลบแสดงถึงจำนวนเงินที่ผู้เล่นต้องวางเดิมพันเพื่อชนะ 1 หน่วย
    • ตัวอย่าง: หากค่าน้ำบวก +0.75 และวางเดิมพัน 1,000 บาท ผู้เล่นจะได้รับกำไร 750 บาท หากชนะเดิมพัน และถ้าค่าน้ำลบ -0.90 ผู้เล่นต้องวางเดิมพัน 900 บาทเพื่อชนะ 1,000 บาท
  • ค่าน้ำฮ่องกง (Hong Kong Odds):
    • ค่าน้ำฮ่องกงเป็นค่าน้ำที่แสดงผลกำไรในรูปของตัวเลขบวกเสมอ ซึ่งคำนวณได้ง่ายและเข้าใจง่าย
    • ตัวอย่าง: หากค่าน้ำฮ่องกงคือ 1.50 และวางเดิมพัน 1,000 บาท ผู้เล่นจะได้รับกำไร 1,500 บาท หากชนะเดิมพัน
  • ค่าน้ำยุโรป (Decimal Odds):
    • ค่าน้ำยุโรปหรือค่าน้ำทศนิยมเป็นค่าน้ำที่นิยมใช้ในยุโรปและแคนาดา ซึ่งคำนวณผลตอบแทนโดยรวมทั้งทุนและกำไร ทำให้เข้าใจง่าย
    • ตัวอย่าง: หากค่าน้ำทศนิยมคือ 2.00 และวางเดิมพัน 1,000 บาท ผู้เล่นจะได้รับเงิน 2,000 บาท (รวมทุน 1,000 บาท)

อัตราต่อรองในการเดิมพันฟุตบอล

อัตราต่อรองในการเดิมพันฟุตบอล

สิ่งนี้ในแวดวงเดิมพันฟุตบอล คือ ค่าที่แสดงถึงความน่าจะเป็นของผลการแข่งขันในแต่ละเกม โดยอัตราต่อรองยังใช้ในการคำนวณการจ่ายเงินเมื่อชนะเดิมพัน ทำให้ผู้เล่นสามารถวางแผนและคำนวณกำไรที่คาดหวังได้ อัตราต่อรองมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะช่วยให้ผู้เล่นสามารถเปรียบเทียบและเลือกเดิมพันที่มีความคุ้มค่ามากที่สุด ตัวอย่างเช่น:

  • หากทีม A มีอัตราต่อรอง 2.00 หมายความว่าผู้เล่นจะได้รับเงิน 2 บาทสำหรับทุกๆ 1 บาทที่เดิมพันกับทีม A หากทีม แมนยูและแมนซิตี้ ชนะ
  • หากทีม B มีอัตราต่อรอง 3.00 หมายความว่าผู้เล่นจะได้รับเงิน 3 บาทสำหรับทุกๆ 1 บาทที่เดิมพันกับทีม B หากทีม B ชนะ

ประเภทของอัตราต่อรอง

อัตราต่อรองมีหลายรูปแบบที่ใช้กันทั่วโลก ซึ่งแต่ละรูปแบบมีลักษณะการแสดงและการคำนวณที่แตกต่างกัน ดังนี้:

  • อัตราต่อรองแบบทศนิยม (Decimal Odds)
    • อัตราต่อรองแบบทศนิยมเป็นรูปแบบที่นิยมใช้ในยุโรปและแคนาดา โดยตัวเลขจะแสดงถึงผลตอบแทนรวม (รวมทุน) ที่ผู้เล่นจะได้รับจากการชนะเดิมพัน
    • ตัวอย่าง: อัตราต่อรอง 2.50 หมายความว่าถ้าผู้เล่นวางเดิมพัน 1,000 บาท และชนะ จะได้รับเงิน 2,500 บาท (รวมทุน)
  • อัตราต่อรองแบบเศษส่วน (Fractional Odds)
    • อัตราต่อรองแบบเศษส่วนเป็นรูปแบบที่นิยมใช้ในสหราชอาณาจักร โดยตัวเลขจะแสดงถึงกำไรที่ผู้เล่นจะได้รับเทียบกับเงินเดิมพัน
    • ตัวอย่าง: อัตราต่อรอง 5/1 หมายความว่าถ้าผู้เล่นวางเดิมพัน 1,000 บาท และชนะ จะได้รับกำไร 5,000 บาท และได้รับเงินรวม 6,000 บาท (รวมทุน)
  • อัตราต่อรองแบบอเมริกัน (American Odds)
    • อัตราต่อรองแบบอเมริกันใช้ค่าบวกและค่าลบในการแสดงอัตราต่อรอง ค่าบวกแสดงถึงกำไรที่ผู้เล่นจะได้รับจากการเดิมพัน 100 บาท ส่วนค่าลบแสดงถึงจำนวนเงินที่ต้องเดิมพันเพื่อชนะ 100 บาท
    • ตัวอย่าง: อัตราต่อรอง +150 หมายความว่าถ้าผู้เล่นวางเดิมพัน 100 บาท และชนะ จะได้รับกำไร 150 บาท และได้รับเงินรวม 250 บาท (รวมทุน) ส่วนอัตราต่อรอง -200 หมายความว่าผู้เล่นต้องวางเดิมพัน 200 บาทเพื่อชนะ 100 บาท

วิธีการดูอัตราต่อรองในแต่ละประเภท

  • อัตราต่อรองแบบทศนิยม (Decimal Odds)
    • ตัวเลขในอัตราต่อรองแบบทศนิยมแสดงถึงผลตอบแทนรวมที่ผู้เล่นจะได้รับจากการชนะเดิมพัน
    • ตัวอย่าง: หากอัตราต่อรองคือ 2.00 และผู้เล่นวางเดิมพัน 1,000 บาท ผู้เล่นจะได้รับเงิน 2,000 บาท (รวมทุน 1,000 บาท)
  • อัตราต่อรองแบบเศษส่วน (Fractional Odds)
    • ตัวเลขในอัตราต่อรองแบบเศษส่วนแสดงถึงกำไรที่ผู้เล่นจะได้รับเทียบกับเงินเดิมพัน
    • ตัวอย่าง: หากอัตราต่อรองคือ 5/1 และผู้เล่นวางเดิมพัน 1,000 บาท ผู้เล่นจะได้รับกำไร 5,000 บาท และได้รับเงินรวม 6,000 บาท (รวมทุน)
  • อัตราต่อรองแบบอเมริกัน (American Odds)
    • ค่าบวกในอัตราต่อรองแบบอเมริกันแสดงถึงกำไรที่ผู้เล่นจะได้รับจากการเดิมพัน 100 บาท ส่วนค่าลบแสดงถึงจำนวนเงินที่ต้องเดิมพันเพื่อชนะ 100 บาท
    • ตัวอย่าง: หากอัตราต่อรองคือ +150 และผู้เล่นวางเดิมพัน 1,000 บาท ผู้เล่นจะได้รับกำไร 1,500 บาท และได้รับเงินรวม 2,500 บาท (รวมทุน) หากอัตราต่อรองคือ -200 ผู้เล่นต้องวางเดิมพัน 2,000 บาทเพื่อชนะ 1,000 บาท

ตัวอย่างการคำนวณอัตราต่อรอง

เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้น มาดูตัวอย่างการคำนวณอัตราต่อรองในแต่ละประเภท:

  • อัตราต่อรองแบบทศนิยม (Decimal Odds): หากอัตราต่อรองคือ 3.00 และผู้เล่นวางเดิมพัน 500 บาท:
    • ผลตอบแทนรวม = 500 x 3.00 = 1,500 บาท (รวมทุน)
    • กำไร = 1,500 – 500 = 1,000 บาท
  • อัตราต่อรองแบบเศษส่วน (Fractional Odds): หากอัตราต่อรองคือ 4/1 และผู้เล่นวางเดิมพัน 500 บาท:
    • กำไร = 500 x 4 = 2,000 บาท
    • ผลตอบแทนรวม = 2,000 + 500 = 2,500 บาท (รวมทุน)
  • อัตราต่อรองแบบอเมริกัน (American Odds):
    • หากอัตราต่อรองคือ +200 และผู้เล่นวางเดิมพัน 500 บาท
      • กำไร = 500 x 2.00 = 1,000 บาท
      • ผลตอบแทนรวม = 1,000 + 500 = 1,500 บาท (รวมทุน)
    • หากอัตราต่อรองคือ -150 และผู้เล่นต้องการเดิมพันให้ได้กำไร 500 บาท
      • จำนวนเงินที่ต้องเดิมพัน = 500 / 1.50 = 333.33 บาท
      • ผลตอบแทนรวม = 333.33 + 500 = 833.33 บาท (รวมทุน)

กลยุทธ์พื้นฐานสำหรับมือใหม่

กลยุทธ์พื้นฐานสำหรับมือใหม่

วิเคราะห์ทีมและผู้เล่น

หนึ่งในกลยุทธ์ที่สำคัญในการแทงบอลออนไลน์ คือการวิเคราะห์ทีมและผู้เล่น ผู้เล่นควรเริ่มต้นด้วยการศึกษาข้อมูลสถิติของทีมและผู้เล่น เช่น ผลการแข่งขันที่ผ่านมา จำนวนประตูที่ทำได้และเสีย ฟอร์มการเล่นในบ้านและนอกบ้าน เป็นต้น

  • สถิติทีม: วิเคราะห์ผลการแข่งขัน 5 นัดล่าสุดของทีม ดูว่าทีมมีฟอร์มการเล่นที่สม่ำเสมอหรือไม่ เช่น ทีม A ชนะ 3 แพ้ 2 ใน 5 นัดล่าสุด มีผลรวมประตู 10-8 แสดงว่าทีม A มีแนวรุกที่ดี แต่แนวรับยังไม่แข็งแกร่ง
  • สถิติผู้เล่น: ดูฟอร์มของผู้เล่นคนสำคัญ เช่น กองหน้าที่ทำประตูได้มากที่สุดในทีม กองหลังที่มีการสกัดบอลมากที่สุด เป็นต้น เช่น ผู้เล่น B ทำประตูได้ 7 ประตูใน 5 นัดล่าสุด ถือว่าเป็นผู้เล่นที่ควรจับตามอง

ติดตามข่าวสารและการบาดเจ็บ

ข่าวสารและการบาดเจ็บของนักเตะเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้เล่นไม่ควรมองข้าม โดยข่าวล่าสุดสามารถเปลี่ยนแปลงผลการเดิมพันได้อย่างมาก เช่น การบาดเจ็บของนักเตะคนสำคัญ, สนามและสภาพอากาศ, การเปลี่ยนแปลงผู้จัดการทีม หรือการเปลี่ยนแปลงในแผนการเล่น

  • ข่าวสาร: ติดตามข่าวจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ เช่น เว็บข่าวกีฬา แอปพลิเคชันกีฬาที่มีการอัปเดตข้อมูลอย่างรวดเร็ว เช่น ถ้าทีม C มีข่าวว่าโค้ชเปลี่ยนแผนการเล่นจาก 4-4-2 เป็น 3-5-2 อาจส่งผลต่อการเล่นของทีมได้
  • การบาดเจ็บ: ดูรายชื่อนักเตะที่บาดเจ็บและไม่สามารถลงเล่นได้ ตัวอย่างเช่น หากทีม D มีผู้เล่นคนสำคัญบาดเจ็บ 3 คน อาจทำให้ทีมเสียเปรียบในการแข่งขัน

การจัดการงบประมาณการเดิมพัน

การจัดการงบประมาณเป็นสิ่งที่ผู้เล่นควรให้ความสำคัญ การเดิมพันควรเป็นไปอย่างมีระบบและไม่เกินขอบเขตที่ตั้งไว้ เพื่อป้องกันการสูญเสียเงินจำนวนมากในระยะเวลาสั้น ๆ

  • การกำหนดงบประมาณ: ตั้งงบประมาณที่ผู้เล่นสามารถเสียได้โดยไม่กระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น ตั้งงบประมาณการเดิมพันเดือนละ 5,000 บาท และไม่ควรเดิมพันเกิน 10% ของงบประมาณในแต่ละครั้ง
  • การบันทึกการเดิมพัน: จดบันทึกการวางเดิมพันแต่ละครั้งเพื่อดูประวัติการชนะและแพ้ เช่น เดิมพัน 500 บาท กับทีม E ใน 10 ครั้งล่าสุด ชนะ 6 ครั้ง แพ้ 4 ครั้ง รวมกำไร 2,000 บาท

การทำความเข้าใจค่าน้ำและอัตราต่อรอง เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการประสบความสำเร็จในการเดิมพัน ความรู้ในด้านนี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้คุณสามารถวางเดิมพันได้อย่างมั่นใจมากขึ้น แต่ยังเพิ่มโอกาสในการทำกำไรได้อีกด้วย การเข้าใจความแตกต่างระหว่างค่าน้ำแต่ละประเภทและคำนวณอัตราต่อรองอย่างถูกต้องจะช่วยให้คุณสามารถเลือกเดิมพันที่มีความคุ้มค่ามากที่สุด สำหรับมือใหม่ ต้องหมั่นศึกษาและฝึกฝนวิเคราะห์เกมเสมอ อย่าพลาดติดตามข่าวสารเกี่ยวกับทีมและผู้เล่น การวิเคราะห์ฟอร์มการเล่น และสิ่งสำคัญคือบริหารเงินอย่างรอบคอบ จะช่วยให้คุณสามารถวางเดิมพันได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย ดังนั้นควรใช้เวลาในการเรียนรู้และฝึกฝนความสามารถเหล่านี้อย่างเต็มที่เพื่อเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จในการเดิมพันฟุตบอล


คำถามที่พบบ่อย

1. การเดิมพันบอลออนไลน์คืออะไร และเริ่มต้นอย่างไร?

เดิมพันบอลออนไลน์ คือ การวางเดิมพันในการแข่งขันฟุตบอลผ่านเว็บไซต์เดิมพัน ซึ่งสามารถทำได้ทุกที่ทุกเวลา ขั้นตอนการเริ่มต้นง่าย ๆ คือการสมัครสมาชิกกับเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือ ทำการฝากเงินเข้าบัญชี และเลือกวางเดิมพันในคู่ที่คุณสนใจ ควรศึกษาและเปรียบเทียบอัตราต่อรองและค่าน้ำก่อนการวางพนันเพื่อให้มีโอกาสชนะสูงสุด

2. ค่าน้ำในการเดิมพันฟุตบอลคืออะไร และมีวิธีการอ่านอย่างไร?

ค่าน้ำ คือ ค่าธรรมเนียมที่เจ้ามือรับแทงตั้งขึ้นเพื่อเป็นคอมมิชชั่นจากการเดิมพัน โดยมีหลายประเภท เช่น ค่าน้ำมาเลย์, ค่าน้ำฮ่องกง, และค่าน้ำยุโรป แต่ละประเภทมีวิธีการคำนวณและการอ่านที่แตกต่างกัน การเข้าใจค่าเหล่านี้ช่วยให้คุณสามารถคำนวณผลตอบแทนที่ได้รับเมื่อชนะเดิมพันได้อย่างแม่นยำ

3. การเดิมพันแบบแฮนดิแคปคืออะไร?

คือ การวางเดิมพันโดยให้ทีมหนึ่งได้เปรียบหรือเสียเปรียบในคะแนนก่อนเริ่มการแข่งขัน เพื่อทำให้การเดิมพันมีความสมดุล ตัวอย่างเช่น หากทีม A ต่อให้ทีม B +1 และผลการแข่งขันคือทีม A ชนะ 2-1 ผลการเดิมพันจะถือว่าเสมอ เพราะทีม B ได้รับแต้มเพิ่มจากแฮนดิแคป การเดิมพันแบบแฮนดิแคปทำให้เกมน่าสนใจและท้าทายยิ่งขึ้น

4. ควรจัดการงบประมาณในการเดิมพันอย่างไรให้ปลอดภัย?

ควรกำหนดงบประมาณที่คุณสามารถเสียได้โดยไม่กระทบต่อชีวิตประจำวัน และโดยไม่ควรพนันเกิน 10% ของงบประมาณในแต่ละครั้ง จดบันทึกการวางเดิมพันเพื่อดูประวัติการชนะและแพ้ และปรับกลยุทธ์การเดิมพันตามผลลัพธ์